การมาสปอร์ติ้ง ลิสบอนเป็นย่างก้าวที่เฟร์นานเดสสะท้านเต็มอกว่าเขาได้โตเต็มที่แล้ว

เขามาในฐานะที่ทุกคนคาดหวังในตัวเขาอย่างสูง ทั้งบอร์ดบริหาร, โค้ช, เพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลกระนั้นปีแรกผ่านไปทีมไม่ได้ไปเตะยฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นั่นทำให้เกิดการประท้วงจากกองเชียร์ที่ไปรวมตัวอยู่หน้าสนามซ้อมราว 50 คน มีผู้เล่นซีเนียร์ถึง 7 รายถูกยกเลิกสัญญาไป หนึ่งในนั้นก็บรูโน่ก่อนจะเปลี่ยนใจกลับมาเซ็นสัญญายาวเพื่อเป็นผู้นำพาทีมกลับคืนสู่จุดที่ควรอยู่

ครับ ซีซั่นต่อมา2018/19 เจ้าตัวก็พีกถึงที่สุด กระหน่ำไปถึง 33 ประตูพาสปอร์ติ้งซิวแชมป์บอลถ้วยในประเทศสองรายการ “เขาเหมือนแม่เหล็กของทีม เขาดึงดูดให้ทุกคนมาหากัน เขาเป็นศูนย์รวมของทุกอย่าง”ดังนั้นมันจึงไม่ง่ายแน่ที่จะมีใครหอบสินสอดมาสู่ขออยากได้เขาไป ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเกือบไปอยู่ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์สแล้วเพราะซัมเมอร์ที่แล้วนี่เป็นสโมสรเดียวที่แสดงเจตนาอยากได้ชัดเจนที่สุด ตัวนักเตะก็เชื่อว่าเป็นสถานทีต่อไปที่เหมาะสมสำหรับเขาสิ่งเดียวที่ทำให้มันไม่เกิดจริงก็เป็นมูลค่าที่สปอร์ติ้งเรียกร้อง 70 ล้านยูโรแต่ทีมไก่เดือยทองพร้อมจ่าย 60 ล้านยูโรซึ่งดานี่ เลวี่ก็ยื่นคำขาดไปแบบนั้น

นั่นทำให้โอกาสจึงตกมาเป็นของแมนฯยูไนเต็ด ทว่าอย่างที่บอกว่ามันไม่ง่ายและไม่เคยง่าย

การที่คุณจะพลัดพรากผู้เล่นที่เป็นทุกอย่างให้กับสักสโมสรออกมาเพียงแต่สิ่งที่เฟร์นานเดสเปิดใจถึงคนรอบข้างเสมอก็เป็นว่า”พรีเมียร์ลีกเป็นลีกในฝันของผม”วัยเบญจเพสที่ถืออยากเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ วัยเบญจเพสที่ยังอยากพัฒนาต่อไปอีก ตอนที่ข้อเสนอแรกจากปีศาจแดงถูกส่งมาให้ ทางบอร์ดบริหารก็เรียกบรูโน่ไปคุย คำตอบก็ชัดเจนว่าเขาปรารถนาจะไป

แต่ก็ไม่ขอยื่นบัญชีขายหรือทำตัวดื้อดึง เขาปล่อยให้การเจรจาดำเนินไปเพื่อให้ต้นสังกัดได้ประโยชน์ที่สุด55 ล้านยูโรจึงเป็นก้อนแรกโดยอาจขึ้นไปถึง65 ล้านยูโรได้อยู่ที่ผลงานอาทิผ่านเข้าเตะแชมเปี้ยนส์ลีกรวมถึงอีก 15 ล้านยูโรในกรณีที่เจ้าตัวได้รางวัลบัลลงดอร์หรือว่าได้โทรฟี่แชมเปี้ยนส์ลีก“ถ้าคุณไม่สามารถคาดหวังจากนักเตะอย่างเขาได้ คุณก็คงไม่สามารถคาดหวังได้จากใครทั้งสิ้น เขามีครบถ้วนทั้งหัวใจ, เทคนิคและความเป็นผู้นำ”ประโยคที่ทิ้งท้ายเอาไว้จากสตาฟฟ์ของลิสบอนก่อนลาจากกันพร้อมเข้ามาเพื่อเดินหน้าไปด้วยกันในวันที่ทีมกำลังลุกขึ้นเดินไปข้างหน้าคล็อปป์ อยากมีผู้เล่นที่อยู่ด้วยกัน มีเป้าหมายเหมือนกันที่อยากไปจุดนั้นด้วยความจริงใจ มันดีกว่าที่ผู้เล่นจะเอาแต่มองถึงผลประโยชน์เล็กน้อยของตัวเอง เช่นการได้เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นอันดับแรกแล้วค่อยตัดสินใจย้ายทีม

“ผมมักจะพูดกับลูกทีมอยู่เสมอว่า -ถ้าพวกนายมองย้อนกลับมายังอาชีพการเล่นของตัวเองในตอนที่อายุ 35 หรือ 36 ปี และเอาแต่คิดถึงเรื่อง 1 ปีที่ไม่ได้เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก แล้วเนี่ย นายก็คงเป็นเด็กน้อยที่น่าสงสารมากๆ- มันมีหลายอย่างที่คุณสามารถทำได้ถ้าร่วมมือกันในฐานะทีมและมีเป้าหมายหลายอย่างที่คุณสามารถไปถึงมันได้หากทำงานด้วยกันแบบเป็นทีม

ติดตามบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ mirrorofjustice.net